
หลายๆ คนมีพฤติกรรม ที่ทำ ร้ า ย ตัวตนและความเป็นอยู่ของตัวเองทั้งโดยตั้งใจและพลั้งเผลอพฤติกรรมดังกล่าวเกิดจากการตอบสนอง ต่อสิ่งเร้าทั้งจากภายในและภายนอกของผู้คน
เรื่องหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณภาพชีวิตของคนต้องตกอยู่ในสถานะย่ำ แ ย่ก็คือสถานะทางการเงินที่ตกต่ำซึ่งเกิดขึ้นได้ ทั้งปัจจัยภายในตนเอง
และปัจจัยภายนอกพฤติกรรม 15 ข้อต่อไปนี้ที่ทำให้คนยากจน ยิ่งจนมากขึ้นคนไม่ยากจนจะกลายเป็นคนจน และเป็นเรื่องที่คนรวยๆ เค้าไม่ทำกัน
1. การดูทีวีมากเกินไป
คือการที่เราปล่อยเวลาให้หมด เปลืองไปกับรายการทีวีโชว์ที่ไม่ได้สร้าง ส า ร ะ สำคัญหรือไม่ได้ให้คุณค่าอะไรแก่ชีวิต เช่นเรื่องซุบซิบนินทาเกี่ยวกับคนดังหรือดาราทั้งหลาย
ดังนั้น เราควรเลือกดูเรื่องราวที่เรามีความสุขกับมันจริงๆ หลายคนดูทีวีเพราะต้องการ ฆ่ า เวลาให้ผ่านพ้นไป เราควรใช้อินเทอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์จากการสืบค้นข้อมูลจากนั้นก็ไปหาอะไรทำที่ก่อเกิดประโยชน์ให้กับชีวิตน่าจะดีกว่า
2. ชอบทาน อ า ห า ร ไร้ประโยชน์
หลายคนชอบที่จะวิ่งเข้าใส่ อ า ห า ร ฟาสต์ฟูด หรือ อ า ห า ร ที่เน้นปริมาณซึ่งอุดมไปด้วยน้ำตาลและ ไ ข มั น มากกว่าจะคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการของ อ า ห า ร
3. ชอบซื้อเสื้อผ้าหรือสินค้าตอนลดราคา
ผู้คนจำนวนมาก ชอบซื้อของตอนเซลส์ หรือตอนลดราคาเช่น เสื้อผ้าทั้งหลายที่นำมาขายลดราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในราคาเต็ม
แต่จะดีกว่าไหม ถ้าคุณจะถามตัวเองก่อนว่า คุณต้องการมันจริงๆไม่ใช่ซื้อเพราะราคาที่ลดลง แต่ก็ซื้อไปกองไว้ในตู้เสื้อผ้าและไม่เคยหยิบขึ้นมาสวมใส่
4. ชอบนอนตื่นสาย
กรณีนี้ พ่ น พิ ษ สำหรับคนออฟฟิศ ที่เข้างานยามเช้าหลายคนชอบปล่อยเวลาผ่านไปจนดึกดื่นโดยไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรให้กับชีวิตตนเอง
เมื่อเราปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยล้ายามดึกดื่น เราก็จะไม่มีแรงตื่นยามเช้า ทำให้โฟกัสงานได้น้อยลงและกว่าจะจบงานก็ย่ำเย็น กลับถึงบ้านก็นอนดึกและชีวิตคุณก็วนลูป
5. ติดดูกีฬางอมแงม
หลายคนดูเพื่อความบันเทิง ถือเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง แต่การตามติดกีฬาทุกแมทช์ทำตัวติดหน้าจอกีฬางอมแงมตลอดเวลา โดยที่ไม่ได้ ทำให้ชีวิตดีขึ้นนั้น ก็ถือเป็นกิจกรรมที่เปล่าประโยชน์
6. ไม่ค่อยชอบอาบน้ำบ่อยๆ
*(ข้อนี้ถือเป็นข้อยกเว้นสำหรับคนไทย เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้คนอาบน้ำกันทุกวันเป็นปกติ)*แต่สำหรับคนต่างชาตินั้นพื้นที่ส่วนใหญ่มีอากาศเย็นถึงเย็นจัด
จึงทำให้มองว่าการอาบน้ำทำให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนเพราะมันสะท้อนถึงการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดีและมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้คนเข้าหาคุณมากกว่าคนไม่ได้อาบน้ำ
7. คนที่ชอบก่น บ่น ด่าผู้อื่นที่ทำให้เขาโชค ร้ า ย การเอาแต่โทษโชคชะตาว่าเป็นเพราะคนอื่นหรือสิ่งอื่น
พฤติกรรมเหล่านี้อาจไม่ได้ช่วยทำให้ปัญหาที่คุณกำลังเผชิญอยู่ได้รับการแก้ไข ในความเป็นจริงเราควรจะตั้งสติและมองปัญหาอย่างตั้งใจ เพื่อที่จะศึกษาหาหนทางแก้ไขปัญหานั้นและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
8. ไม่มีเงินเก็บ ขาดเงินออม
ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างคนรวยกับคนจน ก็คือเงินออมคนที่ไม่มีเงินเก็บออมไว้ใช้เผื่อเหลือเผื่อขาดเมื่อชีวิตต้องเจอเรื่อง ฉุ ก เ ฉิ น
ที่ต้องใช้เงินคนรวยจะสามารถนำเงินที่เก็บออมมาใช้แก้ปัญหาได้แต่ถ้าคุณไม่มีเงิน เก็บออมไว้เลย คุณจะแก้ไขมันยังไง คุณต้องขายบ้าน ขายรถกู้เงินมาเพื่อแก้ปัญหา นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำไมคนรวยจึงรวยยิ่งขึ้น ขณะที่คนจนก็ยิ่งจนลง
9. ชอบใช้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต และกู้ยืมให้กับสิ่งที่ไร้ประโยชน์
หลักง่ายๆ ที่เราต้องจำก็คือ การกู้ยืมเพื่อซื้อสิ่งของบางอย่างที่ก่อหนี้มากกว่าจะทำให้เกิดรายได้ เราก็ไม่ควรทำ คุณควรจะใช้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต ให้กับสิ่งที่คุณคิดว่ามันเป็นการลงทุน
อย่าใช้เงินกู้เพียงเพื่อซื้อทีวีที่มีขนาดใหญ่ หรือเพื่อซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่เพื่อให้ทันยุคทันสมัยเท่านั้น คุณต้องมั่นใจเสียก่อนว่าการใช้จ่ายเงินนั้นนำมาซึ่งรายได้ที่จะเพิ่มขึ้น จึงค่อยควักเงินเพื่อการนั้น
10. มีลูกมากขึ้น และมีลูกในช่วงเริ่มต้นใช้ชีวิต ไม่วางแผนครอบครัว
ความเป็นจริงที่คุณต้องยอมรับก็คือ ลูกนั้นมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายมหาศาลถ้าไม่ได้มีทรัพย์สมบัติล้นเหลือ ก็จำเป็นที่จะต้องวางแผนการมีครอบครัวที่ดี
11. ไม่ตรวจ สุ ข ภ า พ เป็นประจำ
หากเราละเลยไม่ว่าจะด้วยเหตุผล ไม่ใส่ใจ หรือคิดว่าตัวเอง สุ ข ภ า พ ปกติดีอยู่แล้วเราจะไม่สามารถป้องกัน โ ร ค ร้ า ย ที่อาจเกิดกับเราได้การพบว่าเรามีอาการผิดปกติทาง ร่ า ง ก า ย ในช่วงเริ่มต้น จะทำให้เราใช้จ่ายเพื่อรักษาในราคาที่ไม่สูงเท่าตอนที่
โ ร ค ลุกลามจนถึงขั้น อั น ต ร า ย แล้ว หรือบางทีก็อาจจะสายเกินกว่าที่จะรักษาได้
12. ชอบใช้จ่ายเงินก่อนจะได้เงินมา
ประเด็นนี้ อั น ต ร า ย พอๆ กับการที่คุณไปยืมเงินเขามาใช้ก่อนหรือใช้จ่ายเงินไปก่อน ที่คุณจะมีความสามารถจ่ายได้ ยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเงินของคุณยิ่งตกต่ำ
13. ชอบคบคนเหมือนๆกัน
เคยมีผล วิ จั ย ระบุว่าเราจะเป็นดั่ง ค่าเฉลี่ยของผู้คนรวมห้าคนที่อยู่รายล้อมรอบตัวเราถ้าคนจนอยู่รอบๆตัวคุณอีกสี่คน คุณก็จะกลายเป็นคนจนคนที่ห้า
คุณจำเป็นต้องแวดล้อมตัวคุณด้วยคนที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับตัวคุณและผลักดันให้คุณสามารถทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ส่วนใหญ่แล้วคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมักจะสร้างแรงจูงใจ ให้เราได้
มากกว่าผู้คนที่จมปลักอยู่กับปัญหา โทษโชคชะตาและไม่ยอมหาทางออกจงอย่ากลัวที่จะอยู่ให้ห่างไกล จากสภาพแวดล้อมที่ย่ำ แ ย่ คุณควรจะผลักดันตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
14. ได้แต่คิด มีแต่แผน และไม่สามารถทลายกำแพงศักยภาพตนเองได้
คุณไม่สามารถเลือกพ่อแม่ผู้ถือกำเนิดได้ คุณไม่สามารถบังคับให้สังคมปฏิบัติแบบใดต่อคุณได้ แต่สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้คือช่วงเวลาที่คุณจะอุทิศตน
เพื่อทำให้ฝันของคุณเป็นจริงได้ ทุกคนมีเวลา 24 ชั่ ว โมงเท่ากันแต่ใครที่ทุ่มเทหรืออุทิศ ตนต่อสิ่งที่ต้องการหรือใฝ่ฝันได้มากกว่าก็สามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่า
15. คนที่เชื่อว่าผู้อื่นจะยื่นมือช่วยเหลือให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้มากกว่าที่จะเชื่อตัวเอง
ความเป็นจริงก็คือ เราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เรียนรู้ที่จะปรับตัวเรียนรู้ที่จะเข้าใจว่าไม่มีใครแก้ปัญหาให้ใครได้ดีเท่าตัวเองเมื่อเราลิสต์พฤติกรรมทั้ง 15 เรื่อง ที่ทำให้เรารู้ว่าคนจนทำไมจึงจนยิ่งขึ้น
ขณะที่คนรวยก็รวยต่อไป เรามาเรียนรู้กันต่อดีกว่าว่า เราจะปรับเปลี่ยนหรือลดละเลิกพฤติกรรมได้อย่างไร บทความจากA l e x L i c k e r m a n นักฟิสิกส์ผู้เชี่ยวชาญด้าน ย า และ สุ ข ภ า พ
ได้เขียน บทความลงเว็บไซต์ด้าน จิ ต วิ ท ย า ระบุ เ นื้ อ หาเกี่ยวกับห้าเคล็ดลับที่จะทำให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ก่อนอื่นเลยเราต้องยอมรับก่อนว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สั่งสมมานานนั้น เป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่ก็สามารถเป็นไปได้
1. ต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่เราจะเปลี่ยนแปลงนั้น มีความจำเป็นหรือไม่
หรือเราเคยครุ่นคิดกับสิ่งที่เราจะเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังไหมเพราะถ้าเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ ส่งผ่านมาจากเสียงสะท้อนของคนรอบข้างเป็นส่วนใหญ่ เราจะตอบรับด้วยท่าทีที่เป็นลบ มากกว่าจะตอบรับในเชิงบวก
2. พิจารณาสาเหตุ ที่ต้องปรับพฤติกรรม
3. กำหนด เจตจำนงที่แน่นอน และระบุช่วงเวลาที่ต้องทำต่อเนื่องให้ชัดเจน
4. ลงมือทำ
5. รักษาความต่อเนื่อง ของการเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้ ช่วงเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เป็นช่วงที่ยากที่สุดของกระบวนการสร้างความเปลี่ยนแปลง
แต่ช่วงที่ต้องรักษาความต่อเนื่องของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้นเป็นขั้นตอนที่ยากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เพราะคนส่วนใหญ่มักจะล้มเหลวหรือไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองได้ในขั้นตอนที่ต้องรักษาความต่อเนื่องนี่แหละ
6. พฤติกรรมเก่ากลับมา หากเราปล่อยให้พฤติกรรมเก่า กำ เ ริ บ หรือนิสัยเดิมๆกลับมาก็ถือว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิงการต่อสู้กับภาวะการสร้างพฤติกรรมใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
นั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้น หากคุณล้มเหลว ไปในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งจะดีกว่าปล่อยให้พฤติกรรมที่คุณเพียรสร้างความเปลี่ยนแปลงนั้นพังทลายลงด้วยความไม่มุ่งมั่นของคุณเอง