
หากเรา หาเหตุผลให้กับตัวเอง ว่า ทำไม เราถึงรักคนๆ
นี้นักแล้วเหตุผลที่ได้ มีแค่เพียง รักเพราะรักฟังดูอาจเลื่อนลอย
ไร้จุดหมายเกินไปแต่สำหรับคนที่รักกันเหตุผลเพียง
แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะสานต่อความรัก ให้อยู่ต่อไป
แต่กับคนที่เรารักเขา แล้วเขาไม่รักเราไม่เคยจะมองเห็น
แม้แต่คุณค่า ในตัวเราต่อให้เรา
หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้เขาเพียงไหนหรือให้เหตุผลมากมาย
ในคำว่า รักที่เรามีให้เขาก็คง มองไม่เห็นมันเหมือนกัน
และกับคนประเภทนี้ยิ่งเราเรียกร้องมาก แค่ไหนก็จะยิ่ง
สร้างความเหนื่อยใจ ให้กับเราเท่านั้นถ้าคุณ
มีความสุขกับมัน ก็ดีไปแต่สุข แล้วเหนื่อยใจ ก็น่าคิดเหมือน
กันคนเรา เหนื่อยแล้วก็ต้องพักต้องหาทางออก ที่ทำให้เราดีขึ้น
กับเรื่องของความรัก ก็เช่นกันเมื่อเราต้องเหนื่อยล้าเพราะมัน
คงต้องพักซะบ้างลองหยุดวิ่งตามเขาซักครั้งแล้วมาเดิน(แค่เดิน) ตาม
ตัวเองดูสักหนคุณอาจรู้สึกดีกว่า การต้องวิ่งตามใครคนนั้นอย่ างน้อยๆ
คุณจะพบว่าการเรียนรู้ที่จะรักตัวเองนั้น ไม่ทำให้เราเหนื่อยใจเลย
ความจริงแล้ว . . . การรักตัวเอง ไม่ย ากเลยถ้ายังไขว่คว้าหารัก
แต่ยังไม่พบเจอคนที่รักเราจริงก็อย่ าฝืนที่จะรัก
. . . เดี๋ยวจะเสียใจทีหลังถ้าเสียใจ ก็ขอให้คิดถึงตัวเองให้มากๆ
แล้วบางทีสิ่งดีๆ . . . ก็อาจรอเราอยู่ในวันข้างหน้า
บางครั้งเราก็ต้องยอมหยุดชั่วขณะเพื่อรอที่จะเดินต่อไปไม่ใช่ดันทุรัง…
เพื่อที่จะต้องหยุดตลอดไปบ่อยไป..ที่เราเจอความยุ่งย าก
และวุ่นวายจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรก่อนหลังไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอย่ างไร
ก่อนหลังบางครั้งอุปสรรคก็เป็นเรื่องของอุ บั ติ เ ห ตุ
ซึ่งมาอย่ างไม่มีเหตุผล ไม่นึกไม่ฝัน มาอย่ างไม่มีคำอธิบายและบางครั้งมันค่อยๆ มา
แต่บางครั้งมันก็ถาโถมมาพร้อมๆ กันถ้าเจออย่ างนั้นก็คงเป็นย ากที่จะรับมือ
เมื่ออะไรร้อยอย่ างพันอย่ างดาหน้าเข้ามาก็คงไม่ต่างอะไรกับการ
ที่มีใครสักคนโยนเชือกวงใหญ่มาครอบตัวเราไว้แล้วหมุนเชือกให้
เกลียวพันกันยุ่งเหยิงความตกใจจะทำให้สติของเรากระจัดกระจายและตื่นตระหนกกับความอึดอัด
และคับแคบเหมือนไม่มีทางออก เหมือนไม่มีอากาศหายใจจนต้อง
วิ่งวนหาทางออกอยู่อย่ างนั้นด้วยความตื่นกลัว และไม่รู้ตัวเหมือน
คนที่ตกใจเวลาเจอเหตุการณ์ที่รุนแรง ที่ไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง
รู้เพียงแต่ว่าต้องวิ่งๆๆ ต้องหนี
ต้องร้อนรนโดยไม่มีทางรู้เลยว่าขณะที่วิ่งไม่รู้ทิศอยู่นั้นเชือกยิ่งจะ
พันตัวเรามากขึ้น และจะมัดเราไว้อย่ างแน่นหนาในที่สุด
ลองหยุดสักพักดีไหม…หยุดให้หัวใจได้หายเหนื่อยหยุดให้เวลาตัวเอง
ให้สติได้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวแล้วอาจจะมีเวลาทบทวนว่า
นาทีนี้เราต้องทำอะไรเป็นสิ่งแรกการหยุดอยู่นิ่งๆ สักครู่ จะทำให้เรารู้ว่าเรา
ต้องมองเชือกที่กำลังมัดเราอยู่อย่ างยุ่งเหยิงอย่ าง
พิจารณามองหาปลายเชือกหรือต้นเชือกให้เจอ
แล้วค่อยมาตัดสินใจว่าเราจะเริ่มคลายที่ปลายเชือกหรือต้นเชือกง่ายกว่ากันหยิออกมา
สักทางแล้วค่อยๆ ย้อนปลายเชือกออกไปทีละนิดย้อนออกไป
ทางที่มันพันเข้ามาถ้าเหนื่อยก็หยุดพักก่อน
หายเหนื่อยแล้วค่อยลุกขึ้นมาทำต่อค่อยๆ คลายมันต่อไป แม้ว่ามันจะยัง
ไม่คลายไปทั้งหมดแต่ก็ยังพอมีพื้นที่ให้เราได้เคลื่อนไหวในระดับหนึ่ง
การทำงานหรือทำอะไรบางอย่ างที่เรามุ่งที่จะทำให้เสร็จทำๆๆ
โดยไม่รู้จักหยุด อาจจะทำให้งานนั้นเสร็จไวก็จริงแต่เราก็จะเหนื่อย
เกินกว่าความเป็นจริง แล้วงานก็จะไม่ดีจริงบางเวลาเราก็ไม่จำ
เป็นต้องวิ่งตามชีวิตทุกครั้งแค่เราหยุดนิ่งๆ สักพัก
แล้วชีวิตจะหยุดรอเราบางทีโลกทั้งใบก็ไม่รู้ว่ามีใครยอมทนแบก
ขนาดเพียงเสี้ยวของการมีชีวิตอยู่ยังสาหัสสากรรจ์เหลือเกินคงมี
เพียงแรงใจ…และกำลังใจในส่วนก้นบึ้งของหัวใจที่บอกให้อดทน
และก้าวเดินต่อไปให้ถึงที่สุดแม้จะย ากท้อแท้เพียงใด