
เรามักถูกสอนมาว่า ให้ขยัน แล้วจะไม่มีวันจน แต่ทำไมหลายๆคนขยันทำงานเช้าจนค่ำบางคนทำงานควบ 2-3 งาน แต่ชีวิตก็ยังวนเวียนอยู่กับวัฏจักรเดิมๆ
พอหันไปมองคนที่ประสบความสำเร็จ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ทำอะไรมากมายเลยแต่กลับประสบความสำเร็จกว่าเราซะงั้น มันอาจจะเป็นเพราะ 8 สาเหตุเหล่านี้
1. คนอื่นอาจจะลงแรงมากกว่าคุณ
คุณเห็นว่าเขาไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ทำไมถึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนั้นแต่จริงๆแล้วเขาอาจจะลงแรงมากกว่าที่คุณทำ และมากกว่าที่คุณเห็นก็ได้คุณไม่ได้เห็นตอนเขาทำงาน คุณเห็นแต่ตอนที่เขาพักผ่อน
2. ขยัน ให้กับสิ่งที่ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ
หากคุณกำลังขยันทำงานให้กับสิ่งที่คุณไม่ได้รัก แล้วคุณคิดว่าผลงานมันจะออกมาดีได้ขนาดไหนระหว่างทำในสิ่งที่รัก กับสิ่งที่ไม่ชอบ แบบไหนจะออกมามีคุณภาพมากกว่ากัน
ฉะนั้นหากขยันมานานแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ ต้องลองหันกลับมาถามตัวเองว่าเรารักสิ่งที่เรากำลังทำหรือเปล่า เพราะสิ่งที่เรารักและศรัทธามันมากพอเราจะมีความพยายามที่จะทำจนมันสำเร็จจนได้
3. ขยันแบบเน้นปริมาณ
ถ้าคุณเป็นคนที่ขยันเน้นเชิงปริมาณ โดยคิดไว้ว่าขยันไว้ก่อนแต่ไม่สนใจในคุณภาพของงานเลย มันก็ยากที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้
เพราะงานบางอย่าง ไม่ได้ต้องการการลงแรงมาก แต่ต้องการคุณภาพสูงคนที่เป็นเศรษฐี เขามักจะใช้เวลาทำงานมาก ในงานที่ควรต้องใช้ และจะใช้เวลาน้อย
ในงานเล็กๆที่ไม่ได้ต้องการเวลามากเช่นกัน เพราะเขามองว่าเวลามีคุณค่าจึงเน้นสร้างผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าการใช้เวลาทั้งหมดทุ่มไปกับบางสิ่งที่ไม่สำคัญดังนั้นหากเราต้องการประสบความสำเร็จ เราควรที่จะเน้นคุณภาพ มกากว่าเน้นจำนวน
4. ขยันแบบหัวชนฝา
การที่คุณมีความขยันอย่างเต็มเปี่ยมนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณขยันแบบผิดๆก็ยากที่จะพาคุณไปถึงเป้าหมายได้ การขยันต้องมาพร้อมกับความสร้างสรรค์
และผลลัพธ์ที่ดี เราต้องทบทวนตัวเองอยู่เสมอว่าสิ่งที่เราลงมือลงแรงไปนั้นเกิดผลดีผลเสียอย่างไร ควรแก้ไขปรับปรุงตรงไหนให้ดีขึ้น แล้วจะทำให้เราไปถึงจุดหมายได้เร็วยิ่งขึ้น
5. ขยันให้กับความฝันของคนอื่น
หากคุณกำลังขยัน แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเอง คุณกำลังขยันให้กับความฝันของคนอื่นมันก็ไม่ใช่การลงแรงที่ส่งผลกับตัวคุณ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนมีเป้าหมายเป็นของตัวเอง
และเขาฉลาดพอที่จะจ้างคนอื่นมาทำความฝันของเขาให้เป็นจริงในขณะที่คนไม่มีเป้าหมายในชีวิต ก็ได้แค่ขยันทำความฝันให้คนอื่นไปเรื่อยๆ
โดยไม่มีจุดหมาย หากคุณยังไม่มีเป้าหมายให้ตัวเอง ก็จะมีคนจ้างคุณเพื่อไปทำความฝันให้พวกเขาดังนั้นคุณต้องกลับมาถามตัวเองว่า ตอนนี้คุณกำลังขยันให้กับความฝันของตัวเอง หรือของคนอื่น
6. ขยันเพื่อขายเวลาแลกกับเงิน
คนรวยจะรู้ว่า เวลานั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะมันไม่สามารถเก็บไว้ใช้ทีหลังหรือย้อนกลับไปได้ ถ้าคุณเลือกขยันเพื่อขายเวลาของตัวเองให้กับนายจ้าง
รายได้ของคุณก็จะจำกัดอยู่แค่เท่านั้น และคุณจะไม่มีวันรวยคุณจะไม่มีทางได้รู้จักกับ อิสรภาพทางการเงินและอิสรภาพทางการเวลา
7. เสียเงินไปกับความสุขแค่ ชั่ ว คราว
“คนที่ล้มเหลว” ซื้อแต่ของแพงทั้งๆที่ “ยังลำบากอยู่” แต่ “คนที่สำเร็จ” เขาซื้อของแพงๆหลังจาก“รวยแล้ว” บางคนซ์้อของที่สามารถสร้งาความพอใจให้คุณได้แค่ ชั่ ว ขณะ
แต่จากนั้นมันก็สร้างหนี้ให้คุณ เพียงเพราะเห็นว่าคนอื่นมี ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้จำเป็นที่จะต้องใช้มันด้วยซ้ำ คนส่วนใหญ่มักใช้เงินที่หามาได้ด้วยความลำบากเพื่อซื้อของที่พวกเขาไม่ได้ต้องการ และเอาไปอวดคนที่ตัวเองไม่ชอบ
8. เป็นผู้รับอยู่ฝ่ายเดียว
เราต้องหัดเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ ไม่ใช่รอเป็นแต่ผู้รับ เพราะเมื่อคุณได้ให้คือการที่คุฯสร้งาทางเดินของคุณให้กว้างขวางมากขึ้น มันจะทำให้คุณเดินไปหาเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
สิ่งนั้นเรียกว่า การเสริมบุญวาสนา สร้งาบารมี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยเกื้อหนุนให้คุณได้พบเจอคนดีๆ โอกาสดีๆที่จะสร้างช่องทางทำเงิน หรือเรียกอีกอย่างว่า คอนเนกชั่น