Home ข้อคิด เทคนิคการวางตัวในที่ทำงาน ให้เจ้านายรัก

เทคนิคการวางตัวในที่ทำงาน ให้เจ้านายรัก

0 second read
0

1.รั ก ษ า คำพูด

ทำตามที่พูดให้ได้ ข้อนี้สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการมาให้ตรงเวลา ส่งอีเมล์ไม่ให้ตกหล่น

ปิดโปรเจ็คทันวัน เ ด ด ไ ล น์ ทำยอดทะลุเป้า หากคุณทำตามที่พูดไว้ได้ทั้งหมดคุณ

จะได้รับความไว้ เ นื้ อ เชื่อใจจากเจ้านายอยู่เสมอ เผลอๆ อาจจะได้รับมอบหมายงานมากขึ้น

รวมถึงตำแหน่งงานที่พุ่งขึ้นด้วย ลองคิดตามว่า สมมติคุณมีเก้าอี้ 2 ตัวตัวหนึ่งขาเป๋นั่ง

แล้วโยกไปโยกมา จะหักวันไหนก็ไม่รู้กับอีกตัวที่แข็งแร็งมั่นคง นั่งยังไงก็ไม่หักเจ้านายคุณจะเลือกนั่งตัวไหน

2.รับผิดชอบให้เป็น

จะรับผิดชอบ หรือจะเอาแต่อ้างมันต้องมีสักครั้ง ที่เราผิดคำพูดบ้าง คงไม่มีใครทำตาม

ที่พูดได้ทุกครั้ง แต่เมื่อคุณพลาดไปแล้ว ก็จงยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าข้อผิดพลาดนั้นคุณจะไม่ได้ตั้งใจทำก็ตาม

ยกตัวอย่างเช่น คุณมาประชุมสายเพราะต้องพาลูกไปหา ห ม อ แทนที่จะอ้างกับที่ประชุมว่า

“ขอโทษค่ะเมื่อเช้าต้องพาลูกไปหา ห ม อ กระทันหัน กลับมาไม่ทันจริงๆ”

ลองพูดว่า “ขอโทษที่มาสายนะคะ เชิญประชุมกันต่อได้เลยค่ะ ดิฉันจะตามเก็บข้อมูล

ที่ฟังไม่ทันหลังจบประชุมเองอีกทีค่ะ” แทนดูสิถ้าบอสเรียกคุณไปคุยว่าทำไมมาสาย

ค่อยอธิบายให้ฟังอีกครั้งและย้ำว่าคุณจะตามงานให้ทัน

3.คิดบวก พูดบวก ให้เป็นนิสัย

จะขอร้องหรือจะตำหนิ ข้อนี้เราควรฝึกให้เป็นนิสัย โดยเฉพาะเวลาอยู่กับบอสมาลองดู

ข้อแตกต่างระหว่าง สองอย่างนี้กัน คำตำหนิจะบอกว่า “งานนี้ใช้ไม่ได้/คุณมันใช้ไม่ได้”

ในขณะที่คำขอร้องจะบอกว่า “ดิฉันว่าเราควรทำแบบนี้ดีกว่าค่ะ..”

คำตำหนินั้น ฟังดูเหมือนเด็กๆ เอาแต่ใจ ขี้บ่น งอแง กลับกันคำขอร้องจะทำให้คุณ

ดูน่าเชื่อถือ และดูมีเหตุมีผลมากขึ้นดังนั้นแทนทีคุณจะบ่นกับบอสคุณว่า

“ฝ่ายการตลาดนี่ทำงานไม่ได้เรื่องเลย!”ลองเปลี่ยนเป็น “บอสพอจะมีความเห็นไหมคะ

ว่าเราควรจะทำงาน กับฝ่ายการตลาดนี้ยังไงดี” จะฟังดูดีขึ้นทีเดียว

4.ให้ข้อเสนอแนะ

คำขอร้องข้อข้างบนว่าดีแล้ว แต่คำเสนอแนะดีกว่า! วันก่อนดิฉันมีโอกาส คุยกับ HR

คนหนึ่งที่ได้ลอง ใช้วิธีเปลี่ยนคำตำหนิเป็นคำขอแทน จากตอนแรกที่จะบ่นว่า

“ไม่มีใครเห็นหัวชั้นเลย บอกให้ทำอะไรก็ไม่มีใครฟัง”

แต่เธอฉุกคิดได้ว่าพูดไปก็มีแต่เสียจึงเปลี่ยนเป็น “บอสช่วยคุยกับหัวหน้าแผนก

ให้ทีได้ไหมคะว่ารบกวนตอบอีเมล์ และมาตามนัดดิฉันด้วย”ฟังดูดีขึ้นใช่ไหม

แต่ยังไม่ดีที่สุดสุดท้ายเธอเขียนโน้ตวิธีแก้ปัญหาของเธอให้บอส อ่ า น แทน

ว่า “นี่คือหน้าที่ของดิฉันในที่ทำงานนี้ ดิฉันอยากให้บอสเช็คอีกครั้งว่าถูกต้องไหม

แล้วหลังจากนั้นดิฉันจะแจกแจงให้เหล่าหัวหน้าแผนกฟังและรับรู้โดยทั่วกัน” แบบนี้เธอได้ใจบอสไปเต็มๆ!

5.โตด้วยตัวเอง

พนักงานหลายๆคนเอาแต่รอ “เลื่อนตำแหน่ง” ไปอย่างไร้จุดหมาย สิ่งที่คุณต้องเปลี่ยน

คือ คุณต้องบอกตัวเองว่าคุณเป็นเจ้านายตัวเอง กำหนดเส้นทางชีวิตตัวเองได้และ

รู้ว่าอยากเติบโต ไปในทิศทางไหน แทนที่คุณจะเอาแต่รอโอกาสเลื่อนตำแหน่งแบบลมๆ แล้งๆ

คุณต้องคุยกับบอสตรงไปตรงมาไปเลย ชี้แจงว่าคุณสนใจทำงานในส่วนไหน

และอยากจะเติบโตในตำแหน่งอะไร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากเป็นผู้จัดการลองคุย

กับบอสดูว่าให้คุณเป็นคนดูแลเด็กฝึกงานดูได้ไหมหรือเสนอตัวเป็นหัวหน้าโปรเจ็คไปเลย

6.เฟรนลี่เข้าไว้

เจ้านายส่วนใหญ่ หูตาไวทั้งนั้น พวกเขาสังเกตได้ ว่าใครชอบใคร ใคร เ ก ลี ย ด

ใครหากคุณแสดงให้บอสเห็นได้ว่าคุณเข้ากับทุกคนได้ดี ทำให้ทุกคนทำงานได้

ง่ายขึ้นคอยช่วยเหลือคนอื่นเสมอไม่นินทา (เจ้านาย)

ไม่ก่อดราม่าในที่ทำงานทำให้เขาเห็นว่า คุณมีพลังบวกอยู่ในตัว แค่นี้ก็ชนะใจบอส

ไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วเพราะอย่างน้อย เขาก็ไม่ต้องมา ป ว ด หั ว กับปัญหาหยุมหยิม อย่างใคร เ ก ลี ย ด ใครในที่ทำงาน

7.ช่วยให้งานบอสไหลลื่น

ข้อสุดท้ายที่คุณจะทำได้ก็คือ ทำให้บอสคุณทำงานง่ายขึ้นนั่นเอง บอสส่วนใหญ่

เหนื่อยหน่ายกับการที่มีลูกน้อง ที่เอาแต่คิดถึงผลประโยชน์ของตัวเอง คิดแต่บริษัท

จะช่วยอะไร เค้าได้บ้างแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะช่วยอะไรบริษัทได้ ในฐานะลูกน้อง

คุณควรจะคิดว่าจะสนับสนุนเจ้านายและบริษัทอย่างไรผู้ช่วยของดิฉันเองที่ชื่อ

แดน มักจะมีไอเดียดีๆ หรือข้อเสนอดีๆให้เสมอ มันช่วยได้เยอะทีเดียวทำให้ดิฉัน

ทำงานได้ง่ายขึ้นไวขึ้น การที่เขาคอยช่วยเหลือดิฉัน ทำให้ดิฉันเองก็อยากจะ

ช่วยเหลือเขาเช่นเดียวกันสักวันนึงถ้าเมื่อคุณ

มาอยู่ในตำแหน่งบอสเมื่อไหร่คุณก็จะอยากได้ลูกน้อง แบบที่กล่าวมานี่แหละ

ว่าแต่ตอนนี้ คุณมีกี่ข้อกันล่ะ ? แล้วมีอย่างอื่นอีกมั้ย ที่คุณเคยทำแล้ว

รู้สึกว่าบอสคุณประทับใจคุณจนออกนอกหน้านอกตา

Load More Related Articles
Load More By chayyasit888budwong
Load More In ข้อคิด

Check Also

พฤติกรรมแบบนี้ อย่าไปทำในที่ทำงาน

สังคมในที่ทำงานเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่มาใช้ชีวิตอยู่ร … …