
1.นอนให้เร็วขึ้น
การนอนเร็วขึ้นช่วยประหยัดได้ไงนะ? ช่วยได้ก็เพราะว่าหากคุณนอนเร็ว
คุณก็จะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าลงไปได้มากเพราะคุณจะหยุดการใช้ไฟฟ้า
เช่น การดูโทรทัศน์ การใช้คอมพิวเตอร์ การเปิดไฟในบ้านตามห้องต่างๆ
เมื่อคุณเข้านอนแน่นอนว่าคุณจะต้องปิดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
การที่คุณนอนเร็วก็จะทำให้ไม่ต้องใช้พลังงานเหล่านี้นานเกินไปแต่ถ้านอนดึก
ก็จะเสียพลังงานไฟฟ้าไปมากกว่า การเข้านอนเร็วค่ะและสามารประหยัดเงินค่ากินด้วย
ถ้าคุณรับประทาน อ า ห า ร เย็นตอนเวลาหกโมงเย็นแต่คุณยัง
ไม่เข้านอนจนเวลาเที่ยงคืนแน่นอนว่าคุณคงต้องหิวอีกรอบแน่ๆ
ดังนั้น การนอนดึกก็จะทำให้คุณออกไปหาอะไรกินดึกๆดื่นๆจนเสียเงินค่า อ า ห า ร ไปอีกมื้อได้ค่ะ
ดังนั้นควรเปลี่ยนพฤติกรรม การเข้านอนโดยปรับเวลาให้เร็วขึ้นกันนะคะจะได้ประหยัดเงินไปอีกทางหนึ่ง
2.เปิดพัดลมในห้องแอร์
เปิดทั้งแอร์ทั้งพัดลมจะไปประหยัดไฟได้อย่างไรกัน? แต่ทราบไหมว่าช่วยได้จริงๆ
ไม่อิงนิยายนะคะเพราะการเปิดพัดลมในขณะที่เปิดแอร์ช่วยให้อุณหภูมิในห้องนั้น
เย็นเร็วมากขึ้นแอร์ก็ทำงานน้อยลงและสามารถปรับอุณหภูมิแอร์
ให้สูงขึ้นได้อยู่ที่ประมาณ 25 – 27 องศาก็สามารถเย็นได้
ถ้าเปิดพัดลมไปด้วยพร้อมๆกันเมื่อแอร์ไม่ต้องทำงานหนักก็ช่วยให้ประหยัดไฟฟ้า
ได้แล้วอย่างนี้จะไม่ช่วยประหยัดเงินได้อย่างไรกันจริงมั้ยคะ
ซึ่งกลับกันถ้าไม่เปิดพัดลมเปิดแต่แอร์ แอร์ก็จะทำงานหนักมากกว่า
และเปลืองไฟมากกว่าเพราะ กว่าจะทำให้ห้องนั้นเย็นได้
ก็ใช้เวลานานแต่การเปิดพัดลมจะช่วยให้ห้องนั้นเย็นเร็วยิ่งขึ้นค่ะ
3.หยุดใช้คูปองส่วนลด
ใครจะไปคาดคิดว่าการไม่ใช้คูปองส่วนลด นั้นช่วยให้ประหยัดได้
ทั้งที่คุณเลือกใช้คูปองส่วนลดก็เพื่อจะได้ประหยัดเงินต่างหากไม่ใช่เหรอ
บอกเลยว่าคิดใหม่เถอะค่ะการใช้คูปองส่วนลดก็แค่ทำให้เราได้ราคาถูกกว่าราคาจริงเท่านั้น
แต่ถ้ามองจากความเป็นจริงแล้วถ้าคุณไม่มีคูปองส่วนลดสินค้าชิ้นนั้นคุณคง
ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าชิ้นนั้นเลยก็ได้ไม่ว่าจะเต็มราคา หรือลดราคา
ก็ตามดังนั้นการมีคุปองส่วนลดจึงกลับทำให้คุณมีนิสัยใช้จ่ายพร่ำเพรื่อได้ค่ะ
และบางทีการไม่มีคุปองส่วนลดก็ไม่มีสิ่งที่จะ ก ร ะ ตุ้ น ให้คุณต้องออกไปช้อปปิ้ง
แต่เมื่อมีมันอยู่ในมือคุณก็คงคันไม้คันมือต้องถ่อสังขารออกไปช้อปจนได้
โดยที่มีข้ออ้างว่าจะไปซื้อเพราะมันลดราคาและถ้าไปช้า
มันจจะหมดอายุและเสียสิทธิไปการหาข้ออ้างแบบนี้มันผิด
เพราะสุดท้ายคุณจะไม่ใช่แค่ได้ซื้อของที่ลดราคาเท่านั้นคุณคงเสียเงินซื้อของ
อย่างอื่นติดไม้ติดมือมาด้วยแน่ๆแล้วแบบนี้จะเป็นการประหยัดเงินได้อย่างไรจริงมั้ยคะ? ถามใจคุณดูนะคะ
4.ใช้เงินสดให้มากขึ้น
อย่าพึ่งสงสัยวิธีนี้สำหรับใครๆที่ใช้เงินสดเป็นประจำอยู่แล้ว
คงไม่จำเป็นต้องรู้เท่าไหร่แต่สำหรับคนที่ใช้ บั ต ร เ ค ร ดิ ต หรือบัตรเดบิต
ใช้จ่ายแทนเงินสดอยู่ตอนนี้แล้วล่ะก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนด่วนๆ เหตุผลแรกๆ
ก็เพราะว่าการใช้จ่ายผ่าน บั ต ร เ ค ร ดิ ต นั้นทำให้คุณทำให้คุณใช้จ่ายซื้อของแบบรวดเร็ว สะดวกสบายมากเกินไป
แต่การเปลี่ยนมาใช้จ่ายผ่านเงินสดนั้นจะทำให้คุณใช้จ่ายไม่คล่องเท่าบัตรเงินสดต่างๆ
ทำให้เงิน ออกจากกระเป๋าคุณยากกว่า เสียเงินน้อยกว่าได้เพราะกว่าจะซื้ออะไร
ก็ตามคุณจะคิดรอบคอบมากกว่า หรือบางทีเมื่อคุณมีบัตรเหล่านี้คุณก็มีเงินไม่มากพอจะซื้อของ
สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อก็ทำให้ไม่เสียเงินได้ค่ะแล้วการมีบัตรต่างๆ
ก็ยุ่งยากตอนการชำระบิลด้วยถ้าจ่ายไม่ได้ก็เดือดร้อนต่างๆ นานๆ นะคะ
ดังนั้น ลองเปลี่ยนนิสัยการใช้จ่ายผ่านบัตรมาเป็นใช้เงินสดกันดีกว่านะคะ
5.รับประทานผักให้มากขึ้น
การรับประทานผักให้มากขึ้น ช่วยประหยัดยังไงกัน งงใช่มั้ยล่ะ
การรับประทานผักเยอะๆนั้นไม่ได้ดีต่อ สุ ข ภ า พ ของคุณเท่านั้นแต่ดีต่อ
สุ ข ภ า พ ทางการเงินของคุณด้วยนะ คุณลองสังเกตจริงๆจังดูสิว่าราคาของผักนั้นถูกกว่า เ นื้ อ สั ต ว์ มากเลย
ถ้าการที่คุณทำ อ า ห า ร ที่ลด เ นื้ อ สั ต ว์ ลงไปและเพิ่มผักมากกว่า
ก็คงจะประหยัดเงินค่ากับข้าวไปบ้างอาจจะไม่มากแต่ถ้าในระยะยาวก็หลายพันบาทต่อเดือนนะคะ
6.ใช้ถุงพลาสติกซ้ำๆ
การใช้ถุงพลาสกติกซ้ำๆนอกจากจะช่วย ลดภาวะโลกร้อนแล้ว
ก็สามารถช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้านได้ด้วย เช่น
คุณนำถุงพลาสติกที่ใช้แล้วมาเป็นถุงขยะ หรือถุงใส่ของต่างๆแทนการซื้อใหม่ก็ประหยัดได้ด้วย
และเมื่อนำถุงพลาสติกไปเอง หรือไม่รับถุงพลาสติกใหม่จากการไปซื้อของ
บางร้านค้าก็จะมีส่วนลดให้กับคุณด้วยนี่ ก็เป็นช่องทางที่ประหยัดเงินได้ค่ะดังนั้นเมื่อ
ได้รับถุงพลาสติกมาอย่ารีบทิ้งนะคะให้เก็บเอาไว้เพราะมีประโยน์มากมายอย่างที่บอกไปค่ะ
7.ซื้อ อ า ห า ร ที่ซุปเปอร์ตอนค่ำๆจะได้ลดราคา
หลายคนก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่การลงมือทำจริงช่วยให้ประหยัดได้จริง
โดยการเลื่อนเวลาในการไปเดินในซุปเปอร์ ให้ช้าลงกว่าปกติสักหน่อย
เพื่อจะได้ซื้อของที่ราคาลดลงบางครั้งลดลงตั้ง 50% ขึ้นไปนะคะเรียก
ได้ว่าถูกลงไปครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ แต่การประหยัดด้วยวิธีนี้ก็ต้องระวังเรื่องวันหมดอายุให้ดีๆ
ถ้าคุณคิดดีแล้วว่าสามารถรับประทาน อ า ห า ร นั้นได้ก่อนวันหมดอายุก็ซื้อได้แต่ถ้า
ไม่ก็ไม่ควรซื้อเพราะจะไม่ดีต่อ สุ ข ภ า พ นะคะถ้ารับประทาน
ในวันที่มันหมดอายุไปแล้ว ดังนั้นต้องประหยัดอย่างสติด้วยค่ะ
8.เอา อ า ห า ร เก่าเก็บมาดัดแปลงเป็นเมนูใหม่ๆ
ถ้าบ้านใครนิยมซื้อ อ า ห า ร มาตุนไว้เพื่อทำ อ า ห า ร เป็นอาทิตย์ แล้วล่ะก็
เมื่อต้องไปซื้อของเพิ่มในทุกๆอาทิตย์ก็ควรตรวจเช็คดูว่ามีอะไรบ้าง
ที่ยังเหลืออยู่และสามารถใช้ได้กินได้อยู่ จะได้ไม่ต้องไปซื้อใหม่มาแล้วทิ้ง
ของเก่าไปแบบนั้นก็น่าเสียดายมากเลยค่ะ แต่ของเก่าเก็บในตู้เย็นต้องไม่ใช่ของเสียนะคะ
ที่จะเอามาใช้ปรุง อ า ห า ร ได้ถ้าเสียแล้วก็ทิ้งไปเถอะค่ะอย่าไปเสียดายเลย
วิธีนี้หมายถึงวัตถุดิบในตู้เย็นที่ยังไม่เสียและยังใช้ได้อยู่นะคะแต่ถ้าเกิดคุณเอาวัตถุดิบ
ในตู้เย็นที่เสียแล้วบูดแล้วมาปรุง อ า ห า ร อย่างนั้นเขามาเรียกว่าประหยัดแต่เรียกว่าขี้เหนียวแล้วค่ะ
อย่าลืมนะคะการเป็คนประหยัดกับการเป็นคนขี้เหนียวมีเส้นบางๆกั้นไว้อยู่ค่ะ
เพราะการเอา อ า ห า ร ที่เสียมากินจะเป็นส่งผลเสียต่อ สุ ข ภ า พ
ได้แบบนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ประหยัด เลยกลับต้องเสียเงินมากกว่าเดิมอีกกับค่า รั ก ษ า พ ย า บ า ล
และวิธีตรวจเช็คตู้เย็นของคุณก็ช่วยให้คุณมีนิสัยที่มีระเบียบด้วยค่ะ
และจะพบว่าเมื่อครบหนึ่งอาทิตย์คุณ ก็ไม่ต้องซื้ออะไรใหม่เข้าตู้เย็น
ไปซะทุกอย่างแต่ซื้อแค่บางอย่างเท่านั้นที่หมดไปแบบนั้นก็ประหยัดได้แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นก็ตาม
9.ถอดปลั๊กตู้เย็นก่อนนอน แล้วมาเสียบใหม่ตอนเช้า
จากการฟังคำบอกเล่ามาจากคนที่ทดลองทำวิธีนี้เขาบอกว่าสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้จริงๆ
แต่ก็ต้องสำหรับคนที่ไม่มีของสดในตู้เย็นนะคะถ้าคุณมี ของสดในตู้เย็นคุณ
ก็คงทำไม่ได้ไม่อย่างนั้นของสดในตู้เย็นเสียหายขึ้นมาต้องซื้อใหม่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเหมือนกันค่ะ
ถ้าทำวิธีนี้ไม่ได้ก็สามารถประหยัดไฟฟ้าจากการใช้ตู้เย็นด้วยวิธีอื่น
เช่น อย่าเปิดตู้เย็นค้างไว้เมื่อไม่ใช้งาน อย่าใส่ของมากเกินไปจนล้นตู้เย็น
พราะทำให้ต็เย็นทำงานหนัก หรือไม่ใส่ของร้อนๆในตู้เย็น
ทันทีพยายามละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งอย่าสม่ำเสมอ
เมื่อเห็นว่าน้ำแข็งหนามากเกินไปแล้วเพื่อตู้เย็นจะไม่ทำงานหนักถ้า
ไม่สามารถอดปลั๊กตู้เย็นได้เพราะกลัวว่าของจะเสีย
ก็ทำตามวิธีเหล่านี้แทนได้ค่ะ ช่วยให้ปรหยัดไฟฟ้าได้เหมือนกัน
สรุป
วิธีเหล่านี้ที่นำมาฝากกันที่บอกว่าแปลกๆ ก็แปลกอยู่แต่คงไม่ถึงกับรับไม่ได้
และยากเกินกว่าจะทำตามได้ใช้มั้ยคะ? แต่นี่ก็เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยที่คุณสามารถ
ทำได้ ปรับเปลี่ยนนิสัยได้ เพื่อจะประหยัดเงินในประเป๋าของคุณสักนิดสักหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
แต่การประหยัดด้วยวิธีเหล่านี้ก็มีข้อสังเกตอยู่เนืองๆนะอย่าทำตามอย่างสุดโต่ง
ไม่อย่างนั้นจากคนที่พยายามจะประหยัด ก็กลายเป็นคนขี้เหนียวไปได้แบบที่คุณ
ไม่รู้ตัวค่ะให้ทำตามวิธีเหล่านี้อย่างฉลาดแบบมีสติ
และคุณจะเห็นผลลัพท์ที่เกิดขึ้นกับการเงินของคุณในระยะยาวค่ะ
เช่น คุณจะพบว่าค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลดลง แม้จะเป็นค่าใช้จ่าที่จำเป็น
คุณจะพบว่าคุณมีเงินเหลือเก็บออมมากขึ้นจากค่าใช้จ่ายเล็กๆเหล่านี้
เมื่อเห็นถึงผลที่ดีเหล่านี้ก็คงคุ้มค่ามากที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยนะคะ
ที่มา : m o n e y d u c k